Posted by เรื่องย่อหนัง
หนัง The Zookeeper’s Wife ในปี 1939 แอนโทนีนา ซาบินสกี (เจสสิกา แชสเทน) หญิงชาวโปแลนด์ที่เคยช่วยชีวิตผู้คนนับร้อยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอคือภรรยาของคนดูแลสวนสัตว์ที่เคยรุ่งเรืองมากในกรุงวอร์ซอ แต่เมื่อโปแลนด์ถูกรุกรานโดยกองทัพนาซี และทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก พวกเขาต้องทำงานอย่างลับ ๆ ร่วมกับฝ่ายต่อต้าน ในการวางแผนช่วยชีวิตผู้คนให้พ้นจาก วอร์ซอเกตโต หนึ่งในสถานที่กักกันชาวยิวอันโหดร้ายที่สุด ซึ่งทำให้ชีวิตของแอนโทนีนาและครอบครัวต้องตกอยู่ในความเสี่ยงครั้งใหญ่
ตัวอย่างหนังออนไลน์
รีวิวหนัง
The Zookeeper’s Wife – ผ่าสงคราม กรงสมรภูมิ
127 min | Biography/Drama | Directed by Niki Caro
หากมองแต่ชื่อหนัง (ที่ไม่ใช่ชื่อไทย) คงพาให้ผมนึกถึงหนังฟีลกู๊ดที่เกี่ยวกับสวนสัตว์หลายต่อหลายเรื่องที่เคยผ่านหน้าผ่านตามาบ้าง แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าข่ายอะไรแบบนั้นเลย เพราะ The Zookeeper’s Wife เล่าเรื่องของสวนสัตว์วอร์ซอร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (ราวๆ ยุค 30s – 40s) ซึ่งสวนสัตว์แห่งนี้ก็ได้รับผลกระทบเต็มๆ จากการที่เยอรมันบุกโปแลนด์ และทหารเยอรมันก็เข้ายึดครองสวนสัตว์แห่งนี้ ในขณะที่ชาวยิวจำนวนมากถูกพาตัวไปกักกันไว้ในที่ที่นึง ซึ่งด็อกเตอร์ซาบินสกี้และภรรยาของเขา จึงต้องทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่เคยเป็นเพื่อน รวมไปถึงชาวยิวคนอื่นๆ โดยให้สวนสัตว์วอร์ซอร์แห่งนี้เป็นที่หลบภัยให้แก่พวกเขา
หนังเรื่องนี้มีจุดที่ผมดูแล้วมีความชอบ และไม่ชอบคละคลุ้งกันอยู่ แต่ภาพรวมออกจะไม่ชอบมากกว่า เหตุผลไม่จำเป็นต้องคิดลึกมากในเชิงเทคนิคเลยแม้แต่น้อย เพราะหนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยสิ่งที่ผมรู้สึกน่ารำคาญ (อาจจะความรู้สึกส่วนตัว) อาทิ มีตัวละครที่มักจะทำเรื่องงี่เง่าอยู่ หรือ จังหวะการดำเนินเรื่องของหนังที่แปลก และดูไม่ลงตัว บางจุดยืดไป หรือบางจุดก็ time skip รัวๆ ก็มี และอย่างที่ผมได้กล่าวไป นี่ไม่ใช่หนังสวนสัตว์ฟีลกู๊ดทั่วไป มันค่อนข้างดาร์กและดราม่าหนักในระดับนึง ไม่ได้มาโชว์ความน่ารักของสัตว์ รวมไปถึงบรรยากาศอันอบอุ่นในสวนสัตว์ มีแต่ความเศร้าและกลิ่นอายของหนังที่มีพื้นหลังเป็นสงครามโลก (จริงๆ หนังเรื่องนี้ทำให้ผมนึกไปถึง Schindler’s List คือมีความคล้ายคลึงแต่ไม่ดีเท่า)
แต่หนังก็ยังมีข้อดี อย่างการมีนักแสดงแม่เหล็กอย่าง เจสสิก้า แชสเทน และ แดเนียล บรูห์ ก็ช่วยให้หนังดูโอเคขึ้น และไม่น่าเบื่อจนเกินไปนัก แต่ที่ประทับใจจริงๆ คือการที่ได้รับรู้ดีเทลของสวนสัตว์วอร์ซอร์นี้ ซึ่งผมอาจจะลืมกล่าวไปตั้งแต่ต้นว่าเรื่องนี้มีที่มาจากเรื่องจริง ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกมุมมองที่ผมว่าแปลกดีเกี่ยวกับสงครามโลก หรือ โปแลนด์กับเยอรมัน
ใครที่ชอบหนังดราม่าหรืออะไรที่เกี่ยวกับสงครามโลก แนะนำให้ไปลองดูก็ได้ครับ แม้ว่าภาพรวมหนังอาจจะออกไปทางน่าเบื่อนิดๆ แต่ไม่ได้หนักหนาสาหัสเกินทนมากนัก พอดูกล้อมแกล้ม ฆ่าเวลาไปได้ดีในระดับนึงทีเดียวครับ