กรีซเป็นประเทศแรกในคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่รับรองการสมรสเท่าเทียม
ในการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์, รัฐสภากรีซได้ผ่านร่างกฎหมายที่อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถสมรสและรับอุปการะบุตรบุญธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการลงมติ 176 เสียงต่อ 76 เสียง นับเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญในประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ และยังเป็นแรงผลักดันให้กับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเท่าเทียมในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้
นายกรัฐมนตรีคีเรียกอส มิตโซตากิสได้กล่าวถึงกฎหมายใหม่นี้ว่าเป็นการยกเลิกความไม่เท่าเทียมอย่างร้ายแรงในสังคม ในขณะเดียวกัน, คริสตจักรออร์โธดอกซ์และกลุ่มเคร่งศาสนาได้แสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจนี้ โดยมีการจัดการประท้วงในกรุงเอเธนส์ เน้นย้ำว่ากฎหมายดังกล่าวจะทำลายความสามัคคีทางสังคม
อย่างไรก็ตาม องค์กรความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ในกรีซได้ออกมาแสดงความชื่นชมต่อการผ่านร่างกฎหมายนี้ พร้อมกับระบุว่านี่เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งและความไม่เห็นด้วยจากหลายฝ่าย กรีซกลายเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างเปิดกว้าง ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กรีซไม่เพียงแต่เป็นประเทศแรกในนิกายออร์โธดอกซ์ที่ทำลายกำแพงความไม่เท่าเทียมเรื่องสิทธิการสมรส แต่ยังสร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
การตัดสินใจครั้งนี้ของกรีซไม่เพียงส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงในระดับชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแบบอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ในระดับสากล โดยเฉพาะในภูมิภาคที่การยอมรับความหลากหลายทางเพศยังคงเป็นเรื่องที่มีความต้านทานสูง การผ่านกฎหมายนี้ได้เสริมสร้างความหวังและเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุมชน LGBTQ ทั่วโลกในการต่อสู้เพื่อสิทธิและการยอมรับอย่างเท่าเทียม
ทางด้านสหภาพยุโรป (EU) ที่มีสมาชิก 27 ประเทศ กรีซเข้าร่วมเป็นประเทศที่ 16 ที่อนุญาตการสมรสของคนเพศเดียวกัน การกระทำนี้ไม่เพียงแสดงถึงความก้าวหน้าของกรีซในเวทีสากลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและความเป็นหนึ่งเดียวในหมู่สมาชิก EU โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม
ส่วนต่อต้านจากคริสตจักรออร์โธดอกซ์และกลุ่มเคร่งศาสนาเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ในสังคมที่ศาสนามีอิทธิพลสูง การตอบสนองนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีการสื่อสารและการศึกษาเพื่อลดความเข้าใจผิดและความขัดแย้งทางความคิดเห็น มันเป็นโอกาสในการสร้างสะพานระหว่างศาสนาและความหลากหลายทางเพศ เพื่อสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและเท่าเทียมมาก
การเคลื่อนไหวของกรีซในเรื่องสมรสเท่าเทียมยังเป็นการยืนยันถึงความเป็นประชาธิปไตยและการเคารพสิทธิมนุษยชนที่เป็นพื้นฐานของสังคมที่เจริญก้าวหน้า นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการพิจารณาและปรับเปลี่ยนนโยบายในประเทศอื่นๆ ที่ยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิการสมรสและความหลากหลายทางเพศ
ในที่สุด การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมในกรีซไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะของชุมชน LGBTQ ในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณแห่งความหวังและความก้าวหน้าสำหรับชุมชนทั่วโลก มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าด้วยความพยายามและการต่อสู้ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเพื่อความเท่าเทียมและการยอมรับเป็นไปได้ และกรีซได้กลายเป็นแสงสว่างนำทางให้กับประเทศอื่นๆ ในการเดินตาม